ประกันการเดินทาง (Travel Insurance) ชื่อหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมักคุ้นหูกันดีเวลาจะออกเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง โดยเฉพาะเมื่อคิดจะท่องเที่ยวต่างประเทศ ประกันเดินทาง (อาจ) เป็นสิ่งจำเป็นที่คุณต้องมีไว้ในครอบครอง แต่ก็ใช่ว่าจะทุกเคส! คำถามที่ว่าทำประกันเดินทางดีไหม? จึงกลายเป็นคำถามโลกแตกที่หลายคนคิดไม่ตกว่าควรจะเสียเงินกับมันหรือไม่อย่างไรดี ไม่เป็นไร! เสิร์ชเอ็นจิ้น Skyscanner มีคำตอบและคำแนะนำมาช่วยคุณให้คุณอุ่นใจขึ้นแล้ว
บทความนี้มีอะไรบ้าง?
- ประกันเดินทางคืออะไร?
- จำเป็นต้องซื้อประกันเดินทางไหม?
- ประกันเดินทางมีให้เลือกกี่แบบ?
- ประกันเดินทางต้องจ่ายเท่าไหร่?
- ซื้อประกันเดินทางที่ไหนคุ้มสุด?
ประกันเดินทางคืออะไร?
ประกันการเดินทางเป็นประกันภัยรูปแบบหนึ่ง ซึ่งบริษัทประกันออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการความคุ้มครองความเสี่ยงการเดินทางเป็นระยะเวลาสั้น ๆตามจำนวนวันที่เดินทาง ซึ่งส่วนใหญ่จะออกแบบมาเพื่อใช้กับการท่องเที่ยวต่างประเทศและประกันเดินทางส่วนใหญ่จะมีความคุ้มครองที่คล้ายคลึงกัน อาทิ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะของผู้เอาประกันภัย
- คุ้มครองกรณีกระเป๋าเดินทางสูญหายหรือความล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง
- คุ้มครองกรณีเที่ยวบินถูกยกเลิกหยุดชะงักการเดินทาง หรือความล่าช้าของเที่ยวบิน
- คุ้มครองกรณีทรัพย์สินสูญหายหรือเอกสารเดินทางสูญหาย
- คุ้มครองค่าใช้จ่ายในกรณีเจ็บป่วยหรือรักษาพยาบาลฉุกเฉิน
- คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายและส่งกลับประเทศเพื่อรักษาพยาบาล
- คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการในการส่งศพหรือกระดูกของผู้เอาประกันภัย
- คุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก
หมายเหตุ: การคุ้มครองขึ้นอยู่กับรูปแบบการรับประกันของแต่ละบริษัท อาจมีมากหรือน้อยกว่าที่เรากล่าวถึง โปรดศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดกับบริษัทประกันที่สนใจซื้ออีกครั้ง
จะเห็นได้ว่าประกันภัยที่ขายนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้น คุ้มครองเราหลายกรณีมาก! โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวกับการเดินทางและความเสี่ยงระหว่างการท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่!!! ทั้งหมดทั้งมวลจะคุ้มครองตามวันที่ระบุไว้เท่านั้น เช่นคุณระบุว่าจะเดินทางวันที่ 19-25 ประกันก็จะคุ้มครองคุณในวันที่ 19-25 เมื่อบินกลับมาถึงประเทศไทย รับกระเป๋าเรียบร้อยก็ถือว่าประกันเดินทางสิ้นสุดลง (ยกเว้นซื้อประกันเดินทางแบบรายปี) นี่แหละคือลักษณะของ “ประกันการเดินทาง”
จำเป็นต้องซื้อประกันเดินทางไหม?
ไม่ต้องถกเถียงกันให้ว้าวุ่นเราแยกความจำเป็นมาให้คุณพิจารณาแล้ว!
จำเป็นต้องซื้อประกัน
เมื่อคุณเดินทางไปยังประเทศในแถบยุโรป โดยเฉพาะประเทศที่ต้องยื่นขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) คุณจำเป็นต้องมีประกันการเดินทางที่มีวงเงินประกันไม่น้อยกว่า 30,000 ยูโร หรือ 1,500,000 บาท ซึ่งแต่ละประเทศยังมีการกำหนดรายชื่อบริษัทประกันที่สามารถนำมาใช้ยื่นวีซ่าเอาไว้ด้วย รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ที่ต้องใช้วีซ่าก็อาจมีการขอเรียกดูประกันภัยการเดินทางด้วยเช่นกัน ดังนั้นใครต้องการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มนี้ จำเป็นต้องทำประกันแน่นอน!
วิธีการขอวีซ่าเชงเก้น ทำอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง?ไม่จำเป็นต้องซื้อประกัน
เมื่อคุณเดินทางท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์ เนื่องจากปกติบริษัททัวร์ที่มีมาตรฐานจะมีประกันภัยให้กับคณะทัวร์อยู่แล้ว (ไม่มีถือว่าผิดกฎหมาย) แต่คุณจะได้รับประกันที่ครอบคลุมขนาดไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจทัวร์หรือการจัดหาของบริษัททัวร์ โดยคุณสามารถสอบถามความคุ้มครองกับบริษัททัวร์ก่อนตัดสินใจได้ หากประกันที่ทัวร์จัดทำให้นั้นครอบคลุมเพียงพอก็ไม่จำเป็นต้องซื้อประกันเพิ่ม แต่ถ้าไม่พอใจ จะซื้อประกันเพิ่มไว้เองก็ย่อมได้
เมื่อคุณเดินทางภายในประเทศ และมีประกันอุบัติเหตุ (PA) ซึ่งครอบคลุมอุบัติเหตุทางเครื่องบินพาณิชย์อยู่แล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องซื้อประกันเดินทางเพิ่ม แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับในกรณีกระเป๋าหาย หรือเที่ยวบินล่าช้าด้วยว่า คุณจะไม่ได้ค่าชดเชยจากประกันประเภทนี้ นอกจากค่าชดเชยตามกฎหมายของสายการบินเท่านั้น
ค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดในประเทศซื้อประกันไว้อุ่นใจกว่า
เมื่อคุณเดินทางไปต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว นักท่องเที่ยวที่พักทรัพย์สินมีค่าหรือไปทำกิจกรรมผาดโผนผจญภัย หรือเดินทางไปกับสายการบินที่ขึ้นชื่อเรื่องเที่ยวบินช้าหรือกระเป๋าหายรวมทั้งการเดินทางไปยังปลายทางที่มีความเสี่ยงต่อโรคหรือความปลอดภัยควรมีประกันการเดินทางคุ้มครองไว้จะสบายใจกว่าเพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างท่องเที่ยว ประกันเดินทางสามารถช่วยคุณได้
ทั้งนี้บริษัทประกันบางแห่งมีการกำหนดประเทศที่ไม่รับทำประกัน เช่นประเทศที่อยู่ในภาวะสงคราม รวมทั้งบางกิจกรรมที่ไม่รับทำประกัน เช่นจะรับประกันเมื่อเดินทางไปเนปาล แต่จะไม่รับประกันเมื่อปีนเทือกเขาหิมาลัย เป็นต้น คุณจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อประกันให้เหมาะกับตนเอง
ประกันเดินทางมีให้เลือกกี่แบบ?
ถ้าจะพูดถึงแพ็คเกจประกันเดินทางแล้วเรียกได้ว่ามีอยู่ร้อยแปดพันเก้าอย่างเลยทีเดียวตามแต่บริษัทประกันจะจัดสรรแพ็คเกจขึ้นมาเพื่อขายคุณขึ้นอยู่กับว่าเขาจะหยิบความคุ้มครองอะไรขึ้นมาเป็นจุดขายและคุณจะพอใจหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่คุณต้องศึกษาให้ละเอียดและเลือกแพ็คเกจที่เหมาะสมต่อตัวคุณเองแต่โดยหลักประกันเดินทางจะมี 2 แบบดังนี้
ประกันเดินทางแบบซื้อเอง
ประกันแบบนี้จะมีจำหน่ายตามบริษัทรับประกันภัยทั่วไปซึ่งมีขายตั้งแต่หน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร ยันร้านสะดวกซื้อ หรือสั่งออนไลน์ก็คุ้มครองได้ประกันในลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะครอบคลุมหลายอย่างไปพร้อม ๆ กันทั้งเรื่องค่ารักษาพยาบาลอุบัติเหตุ และปัญหาจากเที่ยวบินและโดยปกติราคาเริ่มต้นของประกันแบบซื้อเองจะค่อนข้างถูกกมาก
ประกันเดินทางกับสายการบิน
ประกันแบบนี้มักจะพ่วงมากับตั๋วเครื่องบินทั้งในรูปแบบรวมในค่าโดยสาร หรือซื้อเพิ่มแบบแพ็คเกจสุดคุ้มขณะจองตั๋วหรือซื้อเพิ่มแยกต่างหากเพื่อรับความคุ้มครองสูงสุดซึ่งแต่ละสายการบินก็จะมีความคุ้มครองแตกต่างกันไปแต่ประกันในลักษณะนี้ในเริ่มต้นจะเน้นในเรื่องของการประกันความล่าช้าของเที่ยวบินและกระเป๋าเป็นหลักก่อนจะขยับขยายความคุ้มครองตามแผนที่คุณเลือกจ่ายเพิ่มเติมตามความสมัครใจ
ทั้งนี้สายการบินมีหน้าที่รับผิดชอบผู้โดยสารตามกฎหมายในกรณีเที่ยวบินล่าช้า-ยกเลิก หรือกระเป๋าล่าช้า-สูญหาย ในวงเงินที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว การซื้อประกันเดินทางเพิ่มจึงเป็นการขยายวงเงินความรับผิดชอบให้สูงกว่าเดิมนั่นเอง
ค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดทั่วโลกประกันเดินทางต้องจ่ายเท่าไหร่?
เนื่องจากแต่ละบริษัทมีประกันหลากหลายแพ็คเกจให้เลือกราคาที่คุณก็จ่ายจึงมีหลายระดับเช่นกัน นับตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท ซึ่งการคุ้มครองและมูลค่าที่คุ้มครองก็จะแตกต่างกันไปยกตัวอย่างเช่น
- ประกันแพ็คเกจA จ่ายแค่ 200บาท คุ้มครองชีวิต 1,000,000 บาท แต่ไม่คุ้มครองความล่าช้าของกระเป๋าและการเดินทางและไม่สามารถใช้ขอยื่นวีซ่าได้ ใช้ได้ไม่เกิน 5 วัน
- ประกันแพ็คเกจB จ่าย 500 บาทคุ้มครองชีวิต 2,000,000 บาท ได้ค่าล่าช้าของเที่ยวบินมานิดหน่อยแต่ไม่ได้ค่าล่าช้ากระเป๋า และสามารถใช้ยื่นขอวีซ่าได้ ใช้ได้ไม่เกิน 7 วัน
- ประกันแพ็คเกจC จ่าย 1,000 บาทคุ้มครองชีวิต 3,000,000 บาท จ่ายค่าล่าช้าแบบจัดเต็ม 30,000 บาทแถมคุ้มครองทรัพย์สินที่บ้านตอนคุณไม่อยู่ให้ด้วย และสามารถใช้ยื่นขอวีซ่าได้ใช้ได้ไม่เกิน 7 วัน
- ประกันแพ็คเกจD จ่าย 2,000 บาทคุ้มครองชีวิต 1,500,000 บาท ได้ค่าล่าช้าของเที่ยวบินมานิดหน่อยแต่คุ้มครองทุกประเทศทั่วโลก 365 วัน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ซึ่งแพ็คเกจประกันก็ขึ้นอยู่กับการเลือกของคุณเอง จ่ายเยอะก็คุ้มครองเยอะเว่อวังอลังการ จ่ายน้อยก็คุ้มครองน้อยพอไว้ให้อุ่นใจ ซึ่งเมื่อเที่ยวกับค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างประเทศของคุณแล้ว การมีประกันเดินทางในราคาต่ำสุดยังควักเงินจ่ายน้อยกว่าอาหาร 1 จานในบางสนามบินซะอีก!
ซื้อประกันเดินทางที่ไหนคุ้มสุด?
เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนก็มองเห็นถึงคุ้มค่าแตกต่างกันไป จึงเป็นเหตุผลที่บริษัทประกันมักเสมอแพ็คเกจมากมายให้คุณเลือกเอง แต่ถ้าคุณเลือกไม่ถูก ปัจจุบันก็มีเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาประกันเป็นตัวช่วยคุณด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น GoBear หรือ Frank.co.th ซึ่งคุณสามารถเลือกเงื่อนไขการรับประกันที่ต้องการ เพื่อให้เว็บไซต์เหล่านี้ค้นหาประกันภัยที่เหมาะสมที่สุดให้แก่คุณ ส่วนช่องทางซื้อประกันเดินทางก็มีหลายช่องทางดังนี้
- ซื้อผ่านระบบออนไลน์ ผ่านตัวแทนจากเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาประกันหรือเว็บไซต์ของบริษัทประกันโดยตรง ถ้าใช้วิธีนี้คุณจะได้ประกันเดินทางที่คุ้มค่าและตรงตามต้องการมากที่สุด
- ซื้อผ่านหน้าร้าน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตัวแทน ธนาคาร ร้านค้ารวมทั้งร้านสะดวกซื้อก็มีประกันเดินทางขายนะ เป็นวิธีการหาประกันที่ง่ายและรวดเร็วจ่ายเสร็จคุ้มครองเลยอะไรอย่างนั้น
- ซื้อผ่านสายการบินสายการบินมักจะมีประกันขายแนบท้ายก่อนชำระเงินค่าตั๋วเลย (มีทั้งขายเองหรือจับมือกับบริษัทประกันอีกที)เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดวก ไม่ต้องคิดเยอะ แค่ติดต่อกับสายการบินก็จบเรื่อง
คำแนะนำ: ควรเลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะมีศูนย์บริการลูกค้าฉุกเฉิน และมีช่องทางติดต่อที่สะดวกง่ายดาย และถ้ามีเวลาคุณอาจดูไปถึงเรื่องของชื่อเสียงและเงื่อนไขการเคลมประกันด้วยก็ได้ หากเลือกบริษัทประกันที่ไม่รู้จักหรือชื่อเสีย อาจมีเรื่องหงุดหงิดตามมาอีกมากมายในภายหลังถ้าเกิดเหตุขึ้นมา
สุดท้ายและท้ายสุดไม่ว่าจะเป็นประกันเดินทางรูปแบบไหน ราคาเท่าไหร่ เราก็ขอเชียร์ให้คุณซื้อติดตัวให้มีไว้แต่ไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แต่ไม่มี ซึ่งราคาของประกันเดินทางก็ไม่ได้แพงอะไรมากมาย และ เสิร์ชเอ็นจิ้น Skyscanner ก็มีตั๋วเครื่องบินราคาถูกสุด ๆ มาชดเชยคุณทุกทริปทั่วโลกอยู่แล้ว! ประหยัดตั๋วเครื่องบินมาซื้อประกันเดินทางเพิ่มสักหน่อย รับรองว่าเที่ยวสนุก สบายใจ หายห่วงแน่นอน