1. โพรวองซ์ (Provence)
แคว้นสวย ๆ บนโปสการ์ดที่โด่งดังเรื่องทุ่งดอกลาเวนเดอร์ โพรวองซ์ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเช่นเดียวกับอาวีญง (Avignon) และอาวร์ (Arles) ที่มีอากาศอบอุ่น แต่หากว่าคุณอยากชมแลนด์สเคปสีส้มสดใส คุณคงต้องไปเที่ยวเมืองลูเบอรอง (Luberon) ที่อยู่ไม่ไกลกันเพื่อชมภูเขาหินดินแดงที่โคโลราโด โพรวองซอร์ (named Colorado Provençal) แทน
2. นีมส์ (Nimes)
เมืองเก่าแก่ที่ยังมีซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างของชาวโรมันที่เคยครองดินแดนแถบนี้และคุณรู้หรือไม่ว่านีมส์เป็นบ้านเกิดของกางเกงยีนส์เดนิมที่คนทั่วโลกคลั่งไคล้และหากคุณอยากสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดการไปว่ายน้ำเล่นที่บริเวณสะพานส่งน้ำโรมันโบราณปงดูการ์ (Pont du Gard) ก็เป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจ
3. การ์กาซอน (Carcassone)
อีกหนึ่งเมืองน่ารักที่ให้บรรยากาศประหนึ่งเมืองในเทพนิยายของดิสนีย์ โดยเฉพาะในยามกลางคืนที่มีการเปิดไฟในส่วนต่าง ๆ ของเมือง คุณอาจสำคัญผิดว่ากำลังเดินทางไปร่วมงานเต้นรำของนางซินกับปรินซ์ชาร์มมิ่ง ซึ่งก็คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะเมืองนี้เขามีการปรับปรุงเมืองในช่วงศตวรรษที่ 19 ให้มีความสวยสมบูรณ์แบบเป็นที่ประทับใจสุด ๆ นั่นเอง
4. มง-แซ็ง-มีแชล (Mont Saint-Michel)
หนึ่งในจุดหมายของนักเดินทางจากทุกสารทิศ และจัดเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของฝรั่งเศส วิหารเก่าแก่บนเกาะเล็ก ๆ ในแคว้นนอร์ม็องดี (Normandy) และสนามบินที่ใกล้สุดอยู่ที่แรนส์ (Rennes) นักท่องเที่ยวอาจจะหนาแน่นสักนิด แต่คุ้มค่าแก่การไปเยือนมาก ๆ
5. ลียง (Lyon)
เมืองที่โด่งดังเรื่องอาหารและจัดเป็นห้องครัวของประเทศก็ว่าได้ ซึ่งการไปเที่ยวลียง คุณก็สมควรไปลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่เขาเรียกว่าบูชอง (Bouchon) และคุณจะรู้ทันทีว่าทำไมผู้คนถึงหลั่งไหล่มาทัวร์กินกันที่นี่ แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าร้านอาหารทุกร้านจะเสิร์ฟอาหารสไตล์บูชอง อันนี้คุณต้องทำการบ้านกันสักหน่อยว่าร้านไหนเด็ด เพราะร้านที่ขึ้นชื่อว่าบูชองของแท้นั้นอร่อยน้ำตาเล็ด แต่ร้านในเขตท่องเที่ยวมักจะปักป้ายหลอกว่าบูชองกันแทบทุกร้าน ส่วนร้านแนะนำที่ต้องไป คือ ร้าน Le Café des Fédérations จดไว้เลย ไม่ผิดหวัง
6. ซานเตมียง (Saint-Emilion)
เมืองเล็ก ๆ ในแคว้นฌีรงด์ (Gironde) ที่โด่งดังเรื่องไวน์ และไวน์ดังเมืองนี้ คือ Château Ausone และ Château Cheval Blanc ที่เป็นไวน์ได้รับการจัดให้เป็นไวน์ชั้นดีในการจัดประเภทไวน์ Premiers grands crus classes A ไปแวะเที่ยวเมืองนี้ก็อย่าไปลองไวน์ 2 ชนิดนี้กันด้วยนะ
7. มงบล็อง (Mont Blanc)
ยอดเขาที่สูงที่สุดในแถบยุโรปตะวันตก(15,781 ฟุต) ที่มีเส้นพรมแดนระหว่างฝรั่งเศสและอิตาลี และหากคุณคิดจะไปไต่เขาที่นี่ก็เตรียมฟิตไปเลยว่าคุณต้องเดินเท้าถึง 10 วัน บนเส้นทาง 170 กิโลเมตรที่ในเส้นทางนั้น คุณจะได้เจอทั้งธารน้ำแข็ง เขาหิมะ และน้ำตกน้ำแข็งหรือถ้าไม่อยากเดิน คุณก็สามารถไปชมวิวมุมสูงกันได้ด้วยการไปเล่นกีฬาสุดเสียวร่มร่อน-พาราไกล์ดิ้ง (Paragliding) และสนามบินที่ใกล้สุดสำหรับการไปพิชิตมงบล็องคือ เจนีวา (Geneva)
8. ช่องเขากอร์จดูเวดง (Gorges du Verdon)
ช่องเขาที่มีแม่น้ำไหลผ่านและหลายคนอาจเปรียบว่านี่มันแกรนด์แคนยอนแห่งฝรั่งเศส ช่องเขาแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในฝรั่งเศส (French Alps) ซึ่งช่องเขาหินปูนในบริเวณนี้มีความสูงถึง 700 เมตรและมีความยาว 25 กิโลเมตร และมีแม่น้ำเวดองไหลผ่าน น้ำที่นี่ก็เขียวมรกตสดใสมาก ๆ ฉะนั้นตามสูตรที่เที่ยวธรรมชาติแบบนี้ เขาก็นิยมปีนหน้าผาและพายเรือคายัคชมวิว สนามบินใกล้ที่สุดอยู่ที่นีซ (Nice) และมาร์แซย์ (Marseille)
9. นีซ (Nice)
เมืองตากอากาศริมทะเลที่ชาวยุโรปเขานิยมไปฮอลิเดย์กัน เพราะมีทั้งวิวสวย ๆ และแหล่งบันเทิงมากมาย และนักท่องเที่ยวต่างชาติก็เยอะมากด้วย หากคุณอยากเก็บภาพวิวแบบปลอดผู้คน และไม่ต้องต่อคิวแย่งมุมถ่ายรูปกัน คุณก็ควรตั้งนาฬิกาปลุกสักราวตี 5 และจุดถ่ายรูปแสงแรกของวันที่เด็ดสุด คือ ที่เขตท่าเรือพรอเมอนาร์ด เด ซองเกล่ซ์ (Promenade des Anglais)
10. กูลิอูร์ (Collioure)
เมืองตากอากาศริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีทะเลสวยฟ้าใส และมีทิวทัศน์ของเมืองโบราณ ปราสาท และประภาคารเก่าแก่แห่งศตวรรษที่ 17ให้ได้ชม จิตรกรและประติมากรชื่อดัง อ็องรี มาติส (Henri Matisse) ถึงขั้นออกปากชมเปาะว่า“ไม่มีท้องฟ้าที่ไหนในฝรั่งเศสมีสีฟ้าสวยใสเท่าฟ้าที่กูลิอูร์” สนามบินใกล้สุด คือแปร์ปิญอง (Perpignan)
11. หาดซาลาชเชีย (Plage de Saleccia) คอร์ซิกา (Corsica)
เกาะในเขตปกครองของฝรั่งเศสในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนหาดซาลาชเชียจัดว่าเป็นสวรรค์ของคนรักทะเลเพราะมีทั้งหาดทรายขาวนุ่มเท้าราวแป้งฝุ่น และน้ำทะเลสีมรกตที่เชิญชวนให้คุณลงไปดำผุดดำว่ายแบบไม่กลัวตัวดำและเกาะแห่งนี้ยังเป็นที่ถ่ายทำของภาพยนตร์สงครามฟอร์มยักษ์ในยุคฟิล์มขาวดำ (ค.ศ.1962) เรื่องเดอะลองเกสต์เดย์ (The Longest Day) ด้วย สนามบินใกล้สุด คือ บาสเตีย (Bastia) และกัลวี่ (Calvi)
12. แคว้นโอแวร์ญ (The Auvergne)
ดินแดนแห่งหุบเขาเขียวขจีและความสุขสงบที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศแคว้นนี้โด่งดังเรื่องชีส ฟาร์มวัว และภูเขาไฟเป็นเขตชนบทที่คุณสามารถเอนหลังชมวิวได้อย่างสบายอารมณ์ สนามบินที่ใกล้สุดอยู่ที่เมืองเอกของแคว้นคือ แกลร์มง-แฟร็อง (Clermont-Ferrand)
13. แคป เฟอเรต์ (Cap Ferret)
แหลมแห่งนี้เป็นเขตตากอากาศในอ่าวบิสเคย์(Bay of Biscay) ในแถบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเรียกว่าเป็นที่เที่ยวทางทะเลสุดชิลอีกแห่ง สนามบินที่ใกล้สุด คือ บอร์โด (Bordeaux)
14. ปารีส (Paris)
เมืองหลวงเมืองดังที่คุณเองก็ไม่รู้ว่าจะไปเริ่มเที่ยวมันตรงไหนดีเพราะมุมไหนของเมืองมันก็น่าเที่ยวไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นจุดท่องเที่ยวดัง เช่น หอไอเฟล(Eiffel Tower) และประตูชัยปารีส(Champs-Élysées)หรือไปถ่ายรูปอาคารสีสดในยามกลางวันและเริงราตรีสไตล์มูแรงรูจกันที่ย่านปิแกล (Pigalle) ปารีสมีอะไรมากมายให้คุณค้นหาและเที่ยวไม่มีเบื่อ